ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจทั่วไป ความหมายของธุรกิจ ธุรกิจ (Business) หมายถึง การกระทำหรือกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ที่ดำเนินงานเกี่ยวกับการผลิต การจำหน่ายสินค้าและการให้บริการ โดยมุ่งหวังผลกำไร (Profit) ขณะเดียวกัน ก็มีความเสี่ยงต่อการขาดทุน หน้าที่ขั้นพื้นฐานของธุรกิจ มีดังนี้ 1. จัดหาวัตถุดิบป้อนโรงงาน 2. แปรสภาพวัตถุดิบให้เป็นผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป หรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป 3. ทำหน้าที่ทางการตลาด เช่น การจัดจำหน่ายสินค้า หรือบริการจากผู้ผลิตไปสู่คนกลาง หรือผู้บริโภคคนสุดท้าย 4. ให้บริการแก่ลูกค้า ปัจจัยในการดำเนินธุรกิจ โดยทั่วไปปัจจัยที่เป็นพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจมีอยู่ 4 ประเภทหรือที่เรียกกันว่า 4M's คือ 1. คน (Man) 2. เงิน (Money) 3. วัสดุหรือวัตถุดิบ (Material) 4. วิธีปฏิบัติงาน (Method) / การบริหารงาน (Management) ความสำคัญของธุรกิจ การประกอบธุรกิจแต่ละประเภทมีบุคคลหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง บุคคลเหล่านั้นล้วนแต่มีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาธุรกิจด้วยเหตุผลแตกต่าง กัน ดังต่อไปนี้ 1. เพื่อตัดสินใจในการเลือกอาชีพ 2. เพื่อธุรกิจของตน 3. เพื่อแก้ไขปัญหาสังคม ประโยชน์ของธุรกิจ ธุรกิจมีประโยชน์ต่อประชาชน สังคม และประเทศชาติ ดังนี้ 1.
ศ. 2540 ที่ได้เน้นความสำคัญของจรรยาบรรณ ความว่า " การงานทุกอย่างทุกอาชีพ ย่อมจะมี จรรยาบรรณ ของตน จรรยาบรรณนั้นจะมีบัญญัติเป็น ลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ตาม แต่ก็เป็นสิ่งที่ยึดถือกันว่าเป็นความดีงาม ที่คนในอาชีพนั้นประพฤติปฏิบัติ หากผู้ใดล่วงละเมิด ก็อาจก่อให้เกิดความเสียหาย ทั้งแก่บุคคล หมู่คณะและส่วนรวมได้ เหตุนี้ผู้ปฏิบัติงานในทุกสาขาอาชีพ นอกจากจะมีความรู้ในสาขาของตน ทั้งข้อที่ควรปฏิบัติ และไม่พึงปฏิบัติอย่างเคร่งครัดด้วย จึงจะสามารถประพฤติปฏิบัติงานให้ประสบความสำเร็จได้รับความเชื่อถือยกย่องในเกียรติ ในศักดิ์ศรี และความสามารถด้วยประการทั้งปวง" หลักการสำคัญของจรรยาบรรณวิชาชีพ 1.
6 ให้ความร่วมมือกับส่วนราชการในการทำหน้าที่พลเมืองที่ดี โดยการสละกำลังกาย กำลังทรัพย์ตามความเหมาะสม สนับสนุนด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่สังคมและชุมชน 4. 7 มีทัศนคติที่ดีและเชื่อมั่นต่อส่วนราชการ ให้ความร่วมมือกับส่วนราชการ 5. จรรยาบรรณของผู้ประกอบธุรกิจต่อพนักงาน พนักงาน (Employer) คือ บุคลากร ซึ่งเป็นปัจจัยในการประกอบธุรกิจที่สำคัญ ถ้าไม่มีพนักงานทำหน้าที่ต่าง ๆ ในองค์กร ย่อมทำให้ไม่เกิดกิจกรรมทางธุรกิจ ผู้ประกอบธุรกิจ จึงควรมีจรรยาบรรณดังนี้ 5. 1 ให้ค่าจ้างและผลตอบแทนอย่างเหมาะสม โดยพิจารณาจากความรู้ ความสามารถ และลักษณะของงาน 5. 2 ให้สวัสดิการที่ดี ทำให้พนักงานมีสวัสดิภาพในการดำรงชีวิต 5. 3 สนับสนุนพนักงานมีการพัฒนาตนเองเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถโดยการฝึกอบรมสัมมนา รวมทั้งสนับสนุนด้านการศึกษา เช่น ให้ทุนการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น เป็นต้น 5. 4 ให้ความยุติธรรมเท่าเทียมกัน ทั้งด้านการปกครองและผลตอบแทน 5. 5 เคารพสิทธิส่วนบุคคลและความสามารถของพนักงาน โดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของพนักงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 5. 6 ศึกษาทำความเข้าใจพนักงานด้านอุปนิสัย ความถนัด ความสามารถ เพื่อจัดหน้าที่ของพนักงานให้เหมาะสมกับงานที่ทำ 5.
เช็คลิสต์ เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของการจด "ภาษีมูลค่าเพิ่ม" หรือ "จด VAT" พร้อมเปิดเงื่อนไขในการออกจากระบบ VAT มีอะไรบ้าง แล้วถ้าอยากออกจากระบบ VAT ต้องทำอย่างไร "กิจการใดที่จดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หากต้องการออกจากระบบ จะต้องมีรายได้ต่ำกว่า 1. 8 ล้านบาท ไม่น้อยกว่า 3 ปี จึงจะขอออกจากระบบ VAT ได้" ตามหลักกฎหมายกำหนดว่า หากผู้ใดมีรายได้เกิน 1. 8 ล้านบาทต่อปี ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่รายได้เกิน 1. 8 ล้านบาท โดยหลังจด VAT กิจการต้องจัดทำรายงานภาษีซื้อ ภาษีขาย รวมถึงทำแบบ ภ. พ. 30 เพื่อนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มแก่สรรพากรทุกเดือน แม้ว่าช่วงหนึ่งช่วงใดที่กิจการไม่มีรายได้หรือรายจ่ายเลยก็ตาม ก็จำเป็นต้องนำส่งแบบ ภ. 30 เปล่าแก่สรรพากร สำหรับคนที่รายได้ยังไม่ถึงเกณฑ์ต้องจด VAT แต่มีแนวโน้มรายได้เกิน ควรพิจารณาให้รอบคอบว่าอยากจด VAT ในรูปแบบกิจการแบบใด เจ้าของคนเดียว หรือในรูปแบบนิติบุคคล เพราะเมื่อจดภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว หากต้องการออกจากระบบอาจไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตาม หลังจด VAT แล้วหากรายได้ต่อปี ไม่ถึงเกณฑ์ 1.
ธุรกิจการพาณิชย์ (Commercial) เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการตลาด มีการกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค โดยอาศัยคนกลางในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ พ่อค้าส่ง พ่อค้าปลีก นายหน้าและตัวแทนจำหน่าย 6. ธุรกิจการเงิน (Financial) เป็น ธุรกิจที่ส่งเสริมให้ธุรกิจต่าง ๆ มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านการเงินและการลงทุน ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า ฯลฯ 7. ธุรกิจบริการ (Services) เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ผลิตการบริการ เพื่อตอบสนอง ความต้องการของผู้บริโภคในการอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภค เช่น บริการขนส่ง การสื่อสาร ธุรกิจโรงแรม การท่องเที่ยว โรงพยาบาล โรงภาพยนตร์ ภัตตาคาร ร้านอาหาร สถานบันเทิงต่าง ๆ ร้านซักรีด ร้านถ่ายรูป สถานเสริมความงาม กิจการหอพักและบ้านเช่า ฯลฯ 8. ธุรกิจอื่น ๆ เป็น ธุรกิจที่ นอกเหนือไปจากธุรกิจดังกล่าวข้างต้น ได้แก่ ผู้ประกอบการอาชีพอิสระต่าง ๆ เช่น แพทย์ ครู เภสัชกร วิศวกร สถาปนิก จิตรกร ประติมากร เป็นต้น บทบาทของธุรกิจต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ 1. พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน (ผลิตและจำหน่ายสินค้าและบริการที่ดี) 2.
8 ล้านบาท แต่กิจการยังต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มทุกเดือน สำหรับกิจการที่ไม่สามารถผลักภาระภาษีมูลค่าเพิ่มให้ลูกค้าได้ จะทำให้กระทบต่อผลการดำเนินการอย่างมาก ดังนั้น หากรายได้ไม่ถึงเกณฑ์และต้องการออกจากระบบ VAT ลองมาตอบคำถามเหล่านี้เพื่อเช็กว่า คุณทั้งหลายพร้อมบอกลาภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วหรือยัง ก่อนออกจากระบบ VAT คิดดีแล้วหรือยัง?